เว็บไซต์เมโทร เผยรายงานสุดช็อกของนายเหวิน เซียวลี่ หนุ่มชาวจีนวัย 19 ปี ที่มีอาการปวดหัวเรื้อรังตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ตอนแรกเขาคิดว่าตัวเองเป็นไมเกรนจึงไปหาซื้อยามากิน แต่อาการก็ไม่ทุเลาลง สุดท้ายทนไม่ไหวจึงตัดสินใจเดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจรักษา
ทั้งนี้ทีมแพทย์จึงได้ทำการเอกซเรย์สมองของเขา ก็ต้องอึ้ง! เมื่อพบว่าเขามี อาการของโรคสปาร์กาโนซิส ที่เกิดจากพยาธิฝังตัวอยู่ในสมอง โดยรายงานยังได้เผยถึงที่มาของพยาธิตัวดังกล่าวว่า คาดว่าอาจเกิดจากตอนที่นายเหวินทำมีดบาดมือขณะกำลังถลกหนังกบเพื่อนำไปปรุงอาหาร ตัวอ่อนพยาธิที่อยู่ในตัวกบจึงเข้าสู่ร่างกายของเขาผ่านบาดแผล จนฝังตัวเจริญเติบโตอยู่ในเซลล์สมอง นำไปสู่อาการปวดหัวเรื้อรังตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา

ซึ่งเมื่อแพทย์ได้ทำการผ่าตัดเพื่อนำพยาธิออกมา ก็พบว่ามันยังมีชีวิตอยู่และดิ้นชอนไชอยู่ในสมองของเขา วัดความยาวของมันได้ถึง 10 ซม. ขณะที่ นายแพทย์หยาง จื่อเฉียน ยังได้เผยเพิ่มเติมว่า การติดเชื้อลักษณะนี้ไม่พบได้บ่อยนัก แต่สามารถเกิดขึ้นได้ โดยเมื่อพยาธิเข้าสู่ร่างกาย มันสามารถเคลื่อนไหวไปได้ทั่วร่างกาย รวมถึงสมอง ซึ่งเมื่อมันฝังตัวแล้วจะกัดกินเซล์สมองเป็นอาหารและขับของเสียที่เป็นสารพิษออกมา ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดและอาจอันตรายถึงชีวิต หรืออาจสูญเสียความทรงจำ พูดไม่ได้ หรือเป็นอัมพาต

พยาธิความยาวถึง 10 ซม. ดิ้นอยู่ในสมอง

อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าการผ่าตัดดังกล่าวจะเป็นเคสที่ยากและมีความเสี่ยงสูง แต่ก็ประสบผลสำเร็จไปได้ด้วยดี โดยตอนนี้เหวินกำลังนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล และมีอาการดีขึ้นแล้วตามลำดับ

ข้อมูลและภาพจาก kapook